ปรับเวลาออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อเลี่ยงเอ็นข้อเข่าอักเสบ

เอ็นข้อเข่าอักเสบ (Patellar Tendinitis) เป็นการบาดเจ็บของเอ็นที่ยึดระหว่างกล้ามเนื้อ Quadriceps M กับกระดูกสะบ้า โดยพบได้ในผู้ที่ใช้งานเข่าอย่างหนัก ซ้ำ ๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ในผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักเป็นประจำ เช่น วิ่ง เล่นฟุตบอล กระโดดเชือก

อาการที่พบได้
  • มีอาการปวด และจะปวดมากเวลาเคลื่อนไหว งอหรือเหยียดเข่า
  • กดเจ็บบริเวณเส้นเอ็น
  • บวม แดง
  • ยืน เดินลำบากเมื่อต้องมีการลงน้ำหนัก

สำหรับอาการเอ็นข้อเข่าอักเสบในบางกรณีสามารถดีขึ้นได้เองภายใน 2-3 วัน จากการหยุดพักกิจกรรมที่ทำให้บาดเจ็บและดูแลตนเองเบื้องต้นเพื่อลดปวด ลดการอักเสบด้วยการประคบเย็น แต่ถ้ายังไม่หายและมีอาการรุนแรงกระทบกับการใช้ชีวิต ควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจรักษา

กายคตา สามารถให้การรักษาโดยวิธีการกายภาพบำบัดร่วมกับการรักษาที่ลงลึกถึงจุดที่เป็นต้นตอของปัญหาโดยไม่ใช้สเตียรอยด์ โดยมีวิธีการรักษาดังนี้

การทำกายภาพบำบัด โดยวิธีการหลัก ดังนี้



การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave Therapy) เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการบาดเจ็บใหม่เพียงเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่ของร่างกาย ซึ่งช่วยลดอาการปวด ลดการอักเสบ จุดที่บาดเจ็บได้รับการผ่อนคลาย และยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด 



การใช้แสงเลเซอร์พลังงานสูง (High Power Laser) เป็นเครื่องมือให้การรักษาด้วยแสงเลเซอร์พลังงานสูงสามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อโดยไม่ทำอันตรายต่อผิวหนัง ซึ่งจะช่วยลดอาการปวด กระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมของร่างกาย ลดการบวม ลดการอักเสบ และช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดอาการเกร็ง ตึงขัดของข้อต่อ เอ็นกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท



การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation: PMS) เป็นการกระตุ้นประสาทส่วนปลายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถช่วยลดอาการปวดจากทั้งเส้นประสาทและไม่ใช่เส้นประสาท ช่วยกระตุ้นเนื้อเยื่อ และช่วยให้ตำแหน่งที่เกิดการบาดเจ็บมีการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ซึ่งจากการทำงานของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้น สามารถลงลึกผ่านอวัยวะต่าง ๆ ในระดับหนึ่งโดยไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บกับอวัยวะโดยรอบ จึงเป็นผลดีกับการรักษาเอ็นข้อเข่าอักเสบ และในการรักษาแต่ละครั้งยังใช้เวลาไม่นานประมาณ 30-60 นาที เท่านั้น 



การรักษาเพิ่มเติมร่วมกับกายภาพบำบัด ที่ลงลึกถึงจุดที่เป็นต้นตอของปัญหา ได้แก่ การฉีด Prolotherapy การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นของตัวเอง PRP (Platelet Rich Plasma) การฉีดสารเปปไทด์ชีวภาพ (Nucleic acid) และ ฟื้นฟูด้วยชีววิทยาโมเลกุล (Biological Therapy)  โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกวิธีการรักษาตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ยังให้การดูแลด้านโภชนาการเสริมวิตามินและอาหารที่เหมาะสมร่วมด้วย



การดูแลเอ็นข้อเข่าเป็นแนวทางช่วยลดปัจจัยเสี่ยงเอ็นข้อเข่าอักเสบได้ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยเริ่มจากไม่ใช้ข้อเข่าต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เข่าเกิดการกระแทก ยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลงกายทุกครั้ง และสุดท้ายใช้งานข้อเข่าในท่าที่ถูกต้องเหมาะสม เพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยลดโอกาสเกิดเอ็นข้อเข่าอักเสบได้ด้วยตนเอง  

.................................

บทความที่เกี่ยวข้อง
รองช้ำ เจ็บทุกทีที่เริ่มก้าวเดิน
รองช้ำ อาจไม่ใช่โรคร้ายแรงจนเป็นปัญหาสุขภาพที่น่ากลัว แต่ก็เล็กพริกขี้หนูไม่เบาทีเดียว เพราะคงใช้ชีวิตไม่มีความสุข...
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy